"ผมว่าโอกาสดีๆอย่างนี้ คงไม่ได้มี.ให้ได้ทำบ่อยๆนะครับ"..พี่แดงว่ามั้ย..
..จากเรื่องBALCK มั้ง...นากเอกจะได้เรียนมหาวิทยาลัยแล้ววววว..@@@@@
พี่แดงให้เกียรติหนังอินเดียเรื่องแรกหลังจากที่ไม่ได้ดูหนังอินเดียมานานนับสิบๆปี...เรื่องมนต์รักทัชมาฮาล...เมื่อวานพี่แดงไป Big C ก็เลยใจอ่อนเพราะคิดถึงหนังที่หายเป็นประจำคือมนต์รักทัชมาฮาล...ซื้อมาจำได้ว่า 3 ครั้งหายแล้ว....ไม่ทวงคืนด้วยคือไม่ได้เสียดายถ้ามีคนดู(กลัวเขาไม่ดูนั่นแหละ)....ก็เลยซื้อมา 2 ชุด ชุดนึงจะเก็บไว้ดูเอง อีกชุดจะให้คนรอบข้างดู...(รอซักหน่อยถ้ามีโอกาสเหมาะๆๆจะซื้อเป็นของขวัญ...โดยจะทยอยทำให้ดูดีๆๆ...)...และได้เรื่องบ้านแก่คนไม่แก่มา 2 ชุดด้วย...ทีแรกดูอะบิเชคก็หล่อเหมือนเจ้าชายนะคะแต่ก็เข้มจังดูอายุมากแล้ว.....พอเมื่อเช้าเปิดดูอีกเขายังเด็กมากอยู่นะ...คงเพราะเราได้ข่าวสารที่น้องๆๆหาไว้และดูหนังเขาหลายเรื่องแล้ว...ปกติเรื่องเสียตังค์พี่แดงเหนียวมากๆๆ...และเป็นหนังเรื่องแรกที่พี่แดงซื้อ....โดยใช้ตังค์ OT นะคะ...แต่ก่อนจะซื้อนังอินเดียก็กันตัวเองไว้เฉพาะตังค์พิเศษเท่านั้นจะไม่ใช้เงินเดือนทำสิ่งไม่เหมาะนัก....แต่พอดูหนังอินเดียแล้วก็รู้ว่าไม่ใช่เรื่องไร้สาระเลย...พอไม่ได้ตังค์พิเศษแล้วพี่แดงก็ใช้เงินเดือนนั่นแหละ...ก็บอกตัวเองว่าเก็บไว้ให้ลูกสาว น้องสาวแม่ พ่อ และหลานๆๆ...ครั้งแรกแค่นั้นจริงๆๆ...แต่เคยเล่าประจำเพราะง่วงนอนจังเมื่อคืนดูหนังอินเดียก็คือบอกเล่าไม่ได้ตั้งใจอะไรเลย...แต่ใครๆๆก็ตอบว่าหนังอินเดียเชย..เต้นข้ามเขา...จนกลัวว่าจะหากันไม่เจอ...พอเจอกันแล้วก็เต้นอยู่นั่น...พี่แดงก็หัวเราะที่เขาพูดไม่ตรงกะความเป็นจริง....ก็เล่าเพียงว่าพี่แดงไม่เคยรู้สึกแบบนั้นกับหนังอินเดีย....ดูทีไรไม่ว่าตั้งแต่เด็กจนเดี๋ยวนี้ก็ไม่เคยเห็นว่าจะเป็นเหมือนใครๆๆเล่าเลย.....
วันที่ดูเลือกซื้อมนต์รักทัชมาฮาล ต้นปี 2546 ค่ะพี่แดงดูจากซองหนังที่ได้มา..มีเพื่อนที่ทำงานด้วยกันเดินผ่านมาถามว่าได้อะไรก็เลยให้เขาดู....เขาบอกเล่าว่าเห็นเขาออกโมษณาในทีวีเรื่องอโศกมาราช...พี่แดงก็ว่าพี่แดงก็เห็นนะ....พอได้ดูอโศกมหาราชมาก็เลยเล่าว่าเป็นหนังที่ดีจังเลยยย...และเอาไปให้น้องคนนั้นดูด้วยเขาก็บอกว่าดี...พี่แดงก็ยิ่งดีใจก็เลยนึกเลยถามไปถามาว่าใครดูหนังแขกได้มั่งก็มีคนขอไปดู....จากนั้นก็ได้เริ่มเล่านิทานพระเจ้าอโศกแถมท้ายให้ใครๆๆที่ดูหนังอโศกมหาราชด้วย...ก็มีดูไม่กี่คนคนที่ดูนั่นเขาบอกว่าชอบตรงที่เขาเต้น..ถ้าเขาเล่าแบบนี้แสดงว่าเขาดูได้อย่างมีความสุขแล้วหละพี่แดงก็จะดีใจว่ามีคนดูหนังแขกเป็นด้วยก็จะหมั่นเอาไปให้เขาดู...แต่คนไหนบ่นว่าไม่ชอบเวลาเขาเต้น...เขาก็จะดูได้แต่นิดหน่อยก็เอามาคืน..ยังกะเจองูเหลือมยังงัยยังงั้น......ถึงแม้จะเล่าต่อว่าเราดูคอนเสริต..ดูมิวสิคเพลง ..ชอบงานเลี้ยงที่มีการเต้นรำทำไมดูหนังแขกเต้นไม่ได้นะ...บรรยากาศในของสิ่งเหล่านี้ในหนังแขกดีกว่าด้วย....ก็นิ่งๆๆ...ดูไม่กี่คนจริงๆๆ...พี่แดงก็เลยหมดไฟในการเชียร์...และเริ่มมีการวิจารณ์เราว่าดูเข้าไปได้งัยเพราะคนที่ดูก็พูดกันอย่างมีความสุขในการดู....ไม่ไช่พูดอวดนะคะพูดจากใจจริงด้วย...ก็เริ่มมีประมาณสปาย...คอยเทียวถามว่าหนังแขก...หนังแขก ...และก็หนังแขกอยู่แถวๆๆไกล้ๆตัวเราประมาณว่าอยากให้ราชวนดู...แต่เราดูลักษณะคนแล้วเป็นคนที่ควรหลีกเลี่ยงก็เลยไม่ได้ตอบสนอง...เพราะเขามาลักษณะไม่ดีแล้วหละ...เขาพูดทุกวันๆๆ...พี่แดงก็เลยเลือกเรื่องเยี่ยมๆๆเลยมาให้เขาดูเพราะเราก็ช่างดูขี้หวงหนังซะจริงเขาก็พูดเปรยๆๆอยู่ทุกวัน...เช่นเดฟดาส ฟ้ามอาจกลั้นรัก สกัดแผนทรชนไร้เงา มนต์รักทัชมาฮาล ...พอเขาเอามาคืนนะทีนี้กะคนนี้นะหนังแขกกลายเป็นงูเห่าสำหรับเขาเลยนะ...พี่แดงปวดขมับเลยนะ.....นินทาหนังแขกว่าเขาเต้น เขาจน เขาเชย อยู่นั่นแหละแถมชักชวนคนที่ไม่เคยดูนินทาอีกต่างหาก....โอยๆๆ...เราสร้างเรื่องก็เลยต้องระงับเหตุเสียแล้ว...อย่างกลุ้มใจเลยแหละ....ก็เริ่มเชียร์ให้ใครๆๆได้ดู...ทีแรกเขาก็เชื่อคนๆๆนั้นมากนะเรื่องหนังแขกเชย จน และเต้นแม้กระทั่งเวลาต่อสู้กันเนี่ย....แต่พี่แดงก็ไม่ลดละความพยายามที่ตนเองได้สร้างเรื่องนี้ไว้นะ...ก็อดทนไปเล่าไป...ประมาณชวนใครๆๆที่ดูมีความดี...ดูหนังแขกบ้าง...บางคนดูจบก็แต่ยอมรับว่าดี...บางคนก็เล่าอย่างตื่นเต้น...บางคนก็บอกว่าไม่ชอบแนวนี้...บางคนก็บอกว่าไม่มีเวลาดู...แต่พี่แดงดูรู้ว่าความรู้ในหนังแขกช่วยทบทวนชีวิตเขาไปแล้ว...คนเหล่านั้นค่อนข้างเปลี่ยน...และก็ค่อยๆๆกลับมาเปลี่ยนคนๆนั้นให้พี่แดงชื่นใจเพราะเขาก็ค่อนข้างงงว่าคนอื่นทำไมพูดไม่เหมือนเขาเลย...ถึงเขาจะเปลี่ยนได้ไม่มากเราะพื้นฐานแห่งจิตใจเขา...แต่พี่แดงก็บวกศาสนาพุทธด้วยเพราะกลัวเขาหลงทาง(พยายามในทุกๆๆคนโดยระมัดระวังให้มากกๆๆ..พี่แดงสังเกตุด้วยนะคะว่าคนที่มีพื้นฐานจิตใจที่ชอบหนังอินเดียได้เละได้ดูบ้างเขาจะเข้าใจศาสนาพุทธได้จนนับว่าเยี่ยม...แค่ถ้าใครไม่เคยดูหนังอินเดียพี่แดงจะสื่อเรื่องพุทธศาสนาค่อนข้ายากแต่เมื่อถึงคราวก็ต้องได้เล่า....และหาโอกาสให้เขาได้ดูหนังอินเดียด้วย...เวลานี้พี่แดงเห็นผลมากชื่นใจนับว่า80กว่า% โดยนับจากจำนวนคนดูนะคะ...แต่เขาอาจจะไม่ยอมรับอยู่ว่าเป็นหนังต่างชาติ..ก็ยังคงรู้สึกได้ว่าทำไมไทยทำไม่ได้ทั้งที่ศักยภาพก็มีอยู่มาก...( แล้วมีเรื่องอโศกนะคะพี่แดงฝากไว้ให้คนที่พี่แดงชอบพอมากเขาดู..ไม่ได้พบเขาเองก็เลยฝากเขาไว้ ปรากฏว่าคนที่รับไว้เขาเอาไปดู...แล้วมาเล่าว่าหนังเศร้าเพราะเขาดูไม่จบแม่เขาก็เล่าต่ออีกที...คนที่พี่แดงอยากดูก็เลยไม่ดูเพราะเขาไม่ชอบความเศร้า...พี่แดงก็ต้องจัดการใหม่ว่าเป็นเรื่องดีมีสุขสมหวังด้วย....พอเขาดูจบเขามาเล่าอย่างชื่นชมพี่แดงก็น้ำต่ซึมเลย...และก็เลยเล่านิทานอโศกต่อว่าท่านได้เป็นรหันต์เพราะอธิษฐานไว้...น้องคนนี้เขาศัทธาทางด้านศาสนาพุทธมากด้วย...)
เข้าเรื่องนะคะมนต์รักทัชมาฮาลมีประโยคที่น่าสนใจที่พี่เขยพูดกับกาบีนว่า
" ตกหลุมรัก...เขาแย่เข้ามาแค่ขาข้างเดียว แกล้งไปทั้งตัวอย่างนี้ก็แย่ซี้ "
ในฉากที่พาเจ้าบ่าวของเพื่อนนางเอกนั่งบนแคร่ และต่อมากาบีนก็เริ่มเห็นจริง
ก็รู้สึกเริ่มถอยตัวและจะมีคำพูดของกาบินว่า
" ถ้าจะฝันต้องฝันให้ได้อย่างปูจา และถ้าจะรักต้องรักให้ได้อย่างกาบีน "
จำได้ว่าตอนนั้นนอนดูนางเอกเต้นทุกวันจนลูกสาวบอกว่า....น้องยีนรู้นะว่าแม่มองแต่นางเอกแม่ต้องดูคนอื่นเต้นด้วยสิ....แม่ก็เล่าว่าแม่รู้แล้วหละน่า...ให้แม่เลิกเห่อกีรติก่อนแม่ถึงจะหันไปมองทีมที่เต้นกะกีรติ....สวยจริงๆๆ
คืนวันศุกร์ที่ 5 พค.2549 ดูหนังเรื่อง DUM ผ่า...อำนาจมืด ดูได้แผ่นครึ่งก็หลับ...สามีดูคนเดียวจนจบ....พี่แดงถ้าดูหนังแอ็คชั่นจะดูประมาณ 2 -3 รอบถึงจะจบเพราะค่อนข้างหนักสำหรับผู้หญิง....แต่ชอบ...ตะกี้เวลา 16.05น.วันนี้ดูได้จนจบได้เก็บคำว่าที่นายตำรวจอุเดมาฝากว่า "การยืนหยัดต่อสู้กับความยากลำบากนั่นแหละที่เขาเรียกว่าความกล้าแกร่ง ถ้า(พระเอกมองมาที่ผู้ชมพร้อมกับวางกำปั้นไว้ที่หัวใจ)มีความกล้าแกร่งโลกจะเป็น(พระเอกชี้นิ้วชี้มาที่ผู้ชม)ของคุณ"
หลายๆๆคำในเรื่องนี้ก็ช่างเหมือนคำที่พี่แดงเคยเขียนเอาไว้แต่ขอยืนยันนะคะว่าพี่แดงเพิ่งดูจบไปตะกี้นี้....แต่ก็ชอบใจที่เราดูหนังมากจนพูดคำไหนไปก็เหมือนหนังอินเดีช่วยยืนยันคำพูดด้วยหรือบางทีก็คิดไม่ออกว่าจะเล่าว่าอย่างไรก็ได้ข้อคิดจากหนังอินเดีย...ทุกอย่างที่พี่แดงเขียนจะมาจากประสบการณ์จริงและความคิดคำนึงถึงเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องการสื่อสารทั้งนั้น....เรื่องลอกเรียนจึงไม่มีนะคะขอยืนยัน....พี่แดงจะระมัดระวังกลัวถ่ายทอดไม่ตรงก็ไปเปิดที่พระเอกพูดและมาทบทวนดูที่เขียนไว้หลายรอบ.....พี่แดงจะมีจุดอ่อนของตนเองตรงนี้....แต่จริงใจนะคะ
หวัดดีค่ะพี่แดงที่น่ารัก ...คุณโมฯ....และราชาที่รักยิ่งของข้าพเจ้า...และอาเฮียตี๋บังด้วย...Veena เพื่อนรัก และเจ้าพวกเด็กๆ จอมแสบทั้งหลาย
ต้องรีบเข้ามาก่อนเลยอะ...เพราะว่ากลัวว่าจะมีคนแย่งเอาข้อความนี้มาลงก่อน.....(เฮียโมฯ....คงไม่รู้ตัวว่าเฮียชิงประโยคเด็ดของเราไปเรียบร้อยแล้ว!!!!...เฮียโมฯ...ลองหลับตาแล้วนึกถึงเราซิจ๊ะ)
ของเราขอเสนอนี่เลยจ้า!!!...คงเรียกว่าประโยคไม่ได้เพราะว่ายาว....แต่ว่าเราชอบมากๆ เลยอะ .....นี่เป็นคำพูดของตาแก่คนหนึ่งที่หล่อและดูดีมากๆ
"ผมนักโทษหมายเลข 786 ผมได้มองผ่านลูกกรงออกมานอกคุก....
***ผมได้เห็นวัน เดือน ปี ผันเปลี่ยนเวียนไป จากดินของที่นี่ไปถึงกลิ่นหอมหวนจากทุ่งของพ่อผม แสงแดดนี้เตือนให้ผมคิดถึงนมเปรี้ยวของมาตี ฤดูฝนของที่นี่ได้นำพาฤดูกาลของผมมาด้วย....ความหนาวทำให้ผมรู้สึกถึงความอบอุ่นของวันโลรี
เค้าว่ากันว่า...นี่ไม่ใช่ประเทศของคุณ ....
แต่ทำไมถึงมีความรู้สึกเหมือนประเทศของผม....
เค้าว่าผมไม่เหมือนเค้า.....แต่ทำไมเค้าหน้าตาเหมือนผม ....
ผมนักโทษหมายเลข 786 มองผ่านลูกกรงออกมานอกคุก....
......ผมได้เห็นนางฟ้าองค์หนึ่งลงมาจากสรวงสวรรค์....เธอเรียกตัวเองว่า ซามีอา แล้วเรียกผมว่า Veer.....เธอเป็นคนแปลกหน้า...แต่ดูแลผมเหมือนเพื่อน ได้ยินคำพูดที่จริงใจของเธอ ผมรู้สึกอยากจะมีชีวิตอยู่ ได้ยินคำสัญญาของเธอทำให้ผมอยากทำอะไรต่อไป
พวกเค้าพูดว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรกับผม...
แต่ทำไมเธอจึงสู้กับทุกคนเพื่อผม.....
เค้าพูดว่าผมไม่เหมือนเธอ.....แต่ทำไมเธอดูเหมือนผม ....
ผมนักโทษหมายเลข 786 ได้มองลอดลูกกรงออกมานอกคุก....
.....และผมเห็น Zaara ของผมอยู่ในสีสันของหมู่บ้านผม ...มาทำให้ความฝันของผมเป็นความจริง....เธอได้ลืมความฝันของตัวเอง ...เธอดูแลคนของผม....เธอได้ละทิ้งคนของเธอ.....ตอนนี้ผมรู้สึกอยากจะเติมเต็มความสุขให้เธอ....ผมอยากอยู่ต่อไปอีกชาติหนึ่งเพื่อเธอ....
***เค้าว่าประเทศผม...ไม่ใช่ประเทศของเธอ
แล้วทำไมเธอจึงอยู่ในบ้านของผม
เค้าพูดว่าผมไม่เหมือนเธอ....แล้วทำไมเธอดูเหมือนผม****
ผมนักโทษหมายเลข 786 มองลอดซี่ลูกกรง....ออกมานอกคุก...."
***เท่านี้แหละค่าคุณผู้ชมขา!!!!....รวมเอาอะไรต่างๆ ไว้มากมาย ...ไม่ว่าจะเป็นความรัก - ความผูกพัน -ความมั่นคงทางด้านจิตใจ - ความเสียสละ - ความอดทน - ความมีน้ำใจเมตตา - อู้หู!!!...บอกไม่หมดอะ....ให้พี่แดงจัดการต่อดีกว่านะจ๊ะ....เพราะข้าพเจ้าวิเคราะห์ไม่เก่ง---
เนี่ยพิมพ์ไปก็...ขนลุกไปและยังร้องให้ไปด้วย (เวอร์ไปนิสสสส)....แบบว่าซึ้งมากๆ
จากเรื่อง Veer-Zaara อานุภาพรักเหนือแผ่นดิน...
เรื่องนี้พี่แดงจะภาคภูมิใจทุกครั้งที่ได้เล่าถึงนะคะ อโศกมหาราช
ฉากในหนังนะคะ ที่ราชกุมารอโศกหลังเมื่อถูกเนรเทศ.....เป็นตอนที่ปลงผมอยู่ที่วัดของพุทธศาสนานะคะ...ก็มีชีปะขาวตัวเล็กๆๆหลายท่านมามองดูอย่างสนใจและราชกุมารอโศกก็หยอกล้อและให้ส้มให้กล้วยอย่างมีความสุขสนุกสนาน....ก็มีสมณะท่านหนึ่งเดนมาถาม
สมณะ : ประสกไม่ใช่คนถิ่นนี้ ประสกเป็นใคร
ราชกุมารอโศก : ข้าเหรอ แค่ผู้จาริกธรรมดา
สมณะ : กระนั้นหรือ ตะวันย่อมจะเป็นตะวันแม้จะมีเมฆร้ายบดบังก็มิอาจบดบังรังสีที่เจิดจ้าได้
ราชกุมารอโศก : งั้นเหรอ แล้วชะตาข้าควรจะป็นใคร เป็น(พร้อมกับพูดกลั้วหัวเราะเบาๆๆ มองดูท่านชีปะขาวตัวเล็กๆๆเหล่านั้นและ หยิบหวีกวัดแกว่งคล้ายกวัดแกว่งดาบพร้อมโยกตัวตามนิดหน่อย)ราชกุมารอย่างงั้นเหรอ ฮึๆ ประเดี๋ยวข้าจะครองราชเป็นราชาผู้ครองแคว้นหรือ ฮึ (และมงมาที่สมณะที่ถามนั้น)
สมณะ : เป็นราชายังธรรมดาไป ดวงชะตาของท่านจะยิ่งใหญ่กว่าราชัน
ราชกุมารอโศก : ยิ่งใหญ่กว่าราชัน??? จะมีใครยิ่งใหญ่กว่าราชัน???
สมณะ: ผู้จาริกเอย การเดินทางของท่านยังไม่สมบูรณ์ ( แล้วท่าสมณะก็เดินผ่านไป )
ราชกุมารอโศกก็ครุ่นคิดตาม และมองชีปะขาวตัวเล็กๆๆเหล่านั้นวิ่งและเอาผลไม้ที่ราชกุมารอโศกให้นั้นนำไปตักบาตรกันอย่างรื่นเริงและมีความสุขเมื่อสมณะท่านออกบิณฑบาตร
เริ่มจากนี้เป็นได้มาจากนิทานนะคะ....มีกุลบุตรท่านนึงอธิษฐานเป็นสาวกอรหันต์ เมื่อบำเพ็ญบุญมาเกือบถึง 1,000 มหากัปแล้วท่านได้มากำเนิดเป็นราชกุมารอโศก และต่อมาเป็นงูเหลือม และชาติที่สำร็จอรหันต์ถือกำเนิดเป็นบุตรมหาเศรษฐีและได้นามในชาตินั้นว่าท่านกุลดิษเถระ
เพราะเหตุชาติที่เป็นพระเจ้าอโศกมหาราชนั้นเป็ชาติที่ยังไม่สำเร็จอรหันต์นะคะท่านยังคงต้องบำเพ็ญบุญอยู่....สมณะท่านนั้นจึงกล่าวว่า " ผู้จาริกเอย การเดินทางของท่านยังไม่สมบูรณ์ "
ข้อสงสัยที่ว่า : ยิ่งใหญ่กว่าราชัน??? จะมีใครยิ่งใหญ่กว่าราชัน??? อธิบายได้ดังนี้นะคะ
สมบัติในโลกก็จะมีประมาณว่า (อาจจะตกหล่นได้นะคะ)เรียงจากน้อยไปสู่มากนะคะ....มนุษย์สมบัติ จักรพรรด์สมบัติ เทวดาสมบัติ พรหมสมบัติ และนิพพานสมบัติ
ถ้าไม่ได้อธิษฐานขอพบและบำเพ็ญบุญในพระพุทธศาสนา ก็จะมีได้ดังนี้ มนุษย์สมบัติ จักรพรรด์สมบัติ เทวดาสมบัติ พรหมสมบัติ และถ้าผิดพลาดเพราะทำกรรมไม่ดีก็สู่ภูมิอบายภูมิ 4 ด้วย หรือเกิดยุคร้างโลกก็อาจเป็นจุลไปได้ด้วยไม่ได้อะไรอีกเลย
แต่ถ้าอธิษฐานขอพบและบำเพ็ญบุญในพระพุทธศาสนา ก็จะมีได้ดังนี้ มนุษย์สมบัติ จักรพรรด์สมบัติ เทวดาสมบัติ พรหมสมบัติ และและถ้าผิดพลาดเพราะทำกรรมไม่ดีก็สู่ภูมิอบายภูมิ 4 ได้ด้วย หรือเกิดยุคร้างโลกก็อาจไม่เป็นจุลไปได้และสุดท้ายจะถึงภูมินิพพานสมบัติซึ่งถ้าตั้งใจและทำถูกต้อง ท่านเล่าว่าเป็นสภาวะที่ไม่ได้สลายไปไหนนะคะเพียงแต่ไม่ได้เวียนว่ายตายเกิดอีกแล้ว ถ้าอ่านในตำราพระพุทธศาสนาจะพบว่าท่านอาจารย์หลายท่านจะเล่าให้ลูกศิษย์ฟังถึงเรื่ององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าหลายๆๆพระองค์และเหล่าท่านพระอระหันต์มาเยี่ยมเยียนท่านที่ถึงภูมิธรรมในรดับพระนิพาน
ต่อไปเป็นประโยคที่น่าสนใจที่พบในหนังเรื่อง อมราปาลี พระเจ้าอชาติศัตรูแสดงโดยท่านสุนิล ดัทธ์ พระเอกในดวงใจของพี่แดง..
ณ สนามรบแคว้นไวสาลี
" ตายกันเกลื่อนเพราะข้า เพื่อผู้หญิงคนเดียว เพียงเราะผู้หญิงคนเดียวเท่านั้น"
" อุดมคติไม่ไช่กระแสเลือดที่จะแสดงความเชื่อในความรัก ซากศพคงไม่ต้อง เกลื่อนแผ่นดนเช่นนี้ "
" ความพนาศของไวสาลีมีทางเดียวเท่านั้น ผู้ประหารขุนพลมคธ ปรารถนาที่จะเข่นฆ่าผู้อื่น ข้าจะทำอย่างไรได้นอกจากวิธีนี้เท่านั้น "
" พระองค์ทรงชีพอยู่ในความทรงจำของม่อมฉัน ดังที่หม่อมฉันสงวนพระองค์ไว้เช่นเดียวกับความรัก จะยังคงอยู่ในความทรงจำภายหลังหม่อมฉันดับชีพ ปัจจุบันไม่มีปรากฏอีก และบัดนี้ทุกสิ่งก็สิ้นสุดลงแล้ว"
.
...........................................................................................
ณ ลานที่องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงธรรม แคว้นไวสาลี......
" รสพระธรรมล้ำลึก สำนึกบาป ซึ้งซ่านซาบ ชำระจิต รู้ผิดชั่ว หักพระแสง สละทิ้งสิ่งเมามัว ถวายตัวสำรวมในพระธรรม "
" พระพุทธองค์โปรดอภัยให้ลูกด้วยเถอะ "
และมีเสียงบทสวดเจริญระพุทธมนต์.....พี่แดงชอบฟังเวลาหนังอินเดียเขาสวดมนต์...จะรู้สึกได้ถึงความศักดิ์สิทธิ กึกก้อง เกรียงไกร มีน้ำเสียงกังวาล แข้มแงทั้งนุ่มนวล...
" พุทธัง สะระนัง คัจฉามิ "
" ธัมมัง สะระนัง คัจฉามิ "
" สังฆัง สะระนัง คัจฉามิ "
สวัสดีค่ะทุกๆท่าน...
ต่อไปเป็นประโยคที่มีคติน่าสนใจจากหนังอินเดียที่ติดอันดับหนึ่งในสิบหนังในดวงใจของพี่แดงนะคะ..(จำอันดับไม่ได้...)จากเรื่องรอยรักฝังใจ แสดงโดยหริ๊กติ๊ก โรชาน และอมิชา ปาเทล
เป็นประโยคที่ราช( หร๊กติ๊ก...)พูดกะฌอนย่า(อมิชา...)บนเครื่องบิน
" ฌอนย่า ผมรู้ว่าคุณเจออะไรมามากแล้ว ผมคิดไม่ออกว่าคุณจะต้องทรมาณไปอีกนานแค่ใหน แต่คุณลืมคิดเรื่องบางอย่างไป คุณยังต้องใช้ชีวตของคุณต่อไปนะ นั่นแหละสิ่งที่คุณลืมไป และเหตุผลที่ว่าทำไมเราต้องมีชีวิต ทำไมต้องมีจุดหมาย คุณจะต้องลุกขึ้นและมีชีวิตชิวาขึ้นมาใหม่อีกครั้งนึง ผมต้องการให้คุณได้มีรอยยิ้มที่สดใส แล้วผมจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับคุณอีกก็ได้ "
สวัสดีค่ะ...
พี่แดงไปอบรมที่กทม.ก็ได้พบเพื่อนๆๆและน้องๆๆที่เรียนด้วยกันหลายคน...ก็แนะนำหนังอินเดียเขาด้วยหละอุปสรรคก็เคเดิมๆๆ...วันที่ไปถึงน้องข้าวโทรมาให้กำลังใจพี่แดงด้วยเรื่องไปครองถม...พี่แดงก็ไปถึงคลองถมจนได้....ตอนเช้าเจอเพื่อนๆๆ(คือไม่ทราบมาก่อนว่าจะได้เจอเพื่อนคนไหนกันด้วยนะ...) เล่าให้กันฟังเรื่องไปคลองถมช่วงบ่ายเหมือนกัน...ร้านเจบิ๊คเหมือนกันแต่ไม่พบกับเลยเพราะเลือกหนังคนละตู้...เพื่อนพี่แดงเขาดูหนังอื่นๆๆ(ไม่ได้ดูหนังอินเดียเลย...)ก็เล่าไปบ้างว่าดี....ได้แบ่งหน้งที่ได้จากครองถมให้เพื่อนคนนึงคนภาคกลางไปหลายเรื่องเช่นสวาเดส เดี่ยวประจันบาน ( นางอัมราปารีพี่แดงถือไปจากสกลฯก็ไห้เพื่อนคนนั้นไปดู)...และพาเพื่อนคนนั้นไปเซ็นทรัลลาดพร้าวได้แนะนำเรื่องแล้วจะรูว่ารักคืออะไรเขาก็ซื้อไปดู...พี่แดงก็เลยกลับมาดูแล้วจะรู้ว่ารักคือะไรตามเพื่อนอีกเพราะคิดถึงหนังมากเมื่อเล่าว่าดี...
.... เป็นประโยคที่ซามี่(ซัลมาน ข่าน) พูดนะคะ ....
" แต่ว่าตอนนี้คุณจะต้องไปอยู่กับเขา ช่วงเวลาที่อยู่กับคุณมันพอสำหรับแค่นั้น แต่ว่ามันไม่มากกว่านั้น ในชีวิตที่แปดคุณจะเป็นของผม อย่าร้องให้ อย่าร้องให้เลยนะ คุณไม่ต้องห่วงผมหรอก นันดู อย่ามองผมแบนั้นสิ ไม่งั้นคุณจะรักผมอีกนะ คุณไปเถอะ ผมร้องให้แล้วมันจะไม่หล่อ คุณไปสิ "
พี่แดงก็โทรถามเพื่อนว่าหนังอินเดียดูแล้วเป็นอย่างไร เขาบอกชอบมากเลย...เขาเอาไปให้หัวหน้าเขาดูด้วยหัวหน้าเขาชอบมากถามหาจะขอดูอีก.. หัวหน้าเขาเป็นภรรยาของผอก.ของโรงพยาบาลด้วย...พี่แดงดีใจจังเลย...เพื่อนพี่แดงคนนี้ชอบด้านศาสนาพอๆๆกะพี่แดงเลยก็ได้แลกเปลี่ยนความรู้กันและกันไปตามประสาอุบาสิกาชาวพุทธ...
ต่อไปจะเป็นสำนวนที่น่าสนใจจากเรื่องปฏิบัติการ 5 ระห่ำ Chocolate
เป็นประโยคของทนายกฤษณะ( อานิล กาปูร์)
"แม่เล่าว่าแต่ละชั้นของหัวหอมน่ะมีรสชาติต่างกันเปิดไปทีละชั้นๆจะทำให้น้ำตาไหลมากขึ้น"
ประโยคกินใจจาก Dus วันวินาสกรรมค่ะ....
** หนึ่งในทีมงานต่อต้านผู้ก่อการร้าย(อะบิเชค..) " ระเบิดที่คุณนำมันมา เพื่อทำลายคนนับหมื่น ผมกำลังจะนำมันไป"
**หนึ่งในทีมผู้ก่อการร้ายสาวสวย(อีชา ดีโอล..)"ไม่ว่าคุณจะอยากทราบหรือไม่ก็ตาม ฉันก็อยากจะบอกว่าฉันตกหลุมรักคุณ และเมื่อไม่มีทางอยู่ร่วมกันได้ ฉันก็จะสละชีพไปพร้อมกัยคุณ"
ประโยคที่น่าสนใจจากหนังเรื่อง Kuch naa kaho "รักกิ๊กไม่พลิกล็อก"..นะคะ...
ราช (อะบิเชค..): ใครจะบอกได้ว่า มันเป็นรักแท้รึเปล่า
นามราธ(แอช..):แล้วคุณจะรู้เอง อืมม..เวลาที่คุณ นอนไม่หลับเลย และในแต่ละวัน ดูเหมือนจะไม่สิ้นสุดลง ถ้าไม่มีคนๆนั้น
ประโยคที่น่าสนใจจากเรื่อง Dhaai Akshar Prem Ke "บาปไหม...ถ้าหัวใจจะรัก"
นิชา(คนที่ร้อยเอกการันต์มีความผูกพันธ์คล้ายความรัก...): ฉันจะบอกอะไรให้นะคะ ถ้าคุณรักใครสักคน ก็เปิดเผยออกมา ไม่งั๊นมันจะสายเกินไป ผู้หญิงเราเหมือนพันธ์ไม้เลื้อย เราต้องการมีหลัก เอาไว้คอยพันเพื่อไม่ให้ล้ม...
*** บทสนทนาที่ประทับใจของพระเอกเจย์(อรชุน รามปาล..)และนางเอกเธียร์(แอช..) จากหนังเรื่อง Dil Karishta บาปเสน่หา***
เธียร์: คุณวางกระเป๋าลงก่อนสิคะ จะได้กินอาหารยังงัยหละ แม่ครัวเธียร์เป็นคนทำอาหารที่คุณชอบมาให้ทานแล้วหละค่ะ
เจย์:คุณรู้ได้อย่างไรว่าผมชอบอาหารแบบไหน
เธียร์:เมื่อไหร่ที่เราพบหัวใจของเรา เราก็จะรู้ว่าเขาชอบอะไรและไม่ชอบอะไร เหมือนกับที่คุณรู้ว่าฉันโปรดปราณสีฟ้านั่นแหละ เจย์คะ..เรามาอธิษฐานร่วมกันสิคะ
เจย์:อธิษฐาน???
เธียร์:บางทีมันอาจะนำแสงสว่างมาให้เราก็ได้นะคะ
เจย์:อืมม...คุณจะให้ผมทำอะไร
เธียร์:คุณหลับตาและอธิษฐานสิ เร็วเข้า หลับตา
เจย์:โอเค
daeng wrote: ต่อไปเป็นประโยคที่น่าสนใจที่พบในหนังเรื่อง อมราปาลี พระเจ้าอชาติศัตรูแสดงโดยท่านสุนิล ดัทธ์ พระเอกในดวงใจของพี่แดง.. ณ สนามรบแคว้นไวสาลี " ตายกันเกลื่อนเพราะข้า เพื่อผู้หญิงคนเดียว เพียงเราะผู้หญิงคนเดียวเท่านั้น" " อุดมคติไม่ไช่กระแสเลือดที่จะแสดงความเชื่อในความรัก ซากศพคงไม่ต้อง เกลื่อนแผ่นดนเช่นนี้ " " ความพนาศของไวสาลีมีทางเดียวเท่านั้น ผู้ประหารขุนพลมคธ ปรารถนาที่จะเข่นฆ่าผู้อื่น ข้าจะทำอย่างไรได้นอกจากวิธีนี้เท่านั้น" " พระองค์ทรงชีพอยู่ในความทรงจำของม่อมฉัน ดังที่หม่อมฉันสงวนพระองค์ไว้เช่นเดียวกับความรัก จะยังคงอยู่ในความทรงจำภายหลังหม่อมฉันดับชีพ ปัจจุบันไม่มีปรากฏอีก และบัดนี้ทุกสิ่งก็สิ้นสุดลงแล้ว" . . . ........................................................................................... ณ ลานที่องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงธรรม แคว้นไวสาลี...... " รสพระธรรมล้ำลึก สำนึกบาป ซึ้งซ่านซาบ ชำระจิต รู้ผิดชั่ว หักพระแสง สละทิ้งสิ่งเมามัว ถวายตัวสำรวมในพระธรรม " " พระพุทธองค์โปรดอภัยให้ลูกด้วยเถอะ " และมีเสียงบทสวดเจริญระพุทธมนต์.....พี่แดงชอบฟังเวลาหนังอินเดียเขาสวดมนต์...จะรู้สึกได้ถึงความศักดิ์สิทธิ กึกก้อง เกรียงไกร มีน้ำเสียงกังวาล แข้มแงทั้งนุ่มนวล... " พุทธัง สะระนัง คัจฉามิ " " ธัมมัง สะระนัง คัจฉามิ " " สังฆัง สะระนัง คัจฉามิ "
" ความพนาศของไวสาลีมีทางเดียวเท่านั้น ผู้ประหารขุนพลมคธ ปรารถนาที่จะเข่นฆ่าผู้อื่น ข้าจะทำอย่างไรได้นอกจากวิธีนี้เท่านั้น"
สวัสดีครับพี่ แดง
ไม่ได้พบกันได้ 6 ปีแล้วนะครับ ยินดีที่ได้พบกันอีกครับ
คุณ "โมฮับบะเทน"
คุณ"โมฮับบะเทน" wrote:สวัสดีครับพี่ แดงไม่ได้พบกันได้ 6 ปีแล้วนะครับ ยินดีที่ได้พบกันอีกครับคุณ "โมฮับบะเทน"แวะมเสมอ ๆ คะ
แวะมเสมอ ๆ คะ
สวัสดีครับพี่แดง
ขอบคุณครับ :0)